"หมัก"คนเดิม.

แค่วันแรกที่ 6 พรรคแถลงจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ทำให้กองเชียร์พลังประชาชนพากันอึดอัดหาวเรอกับท่าทีของนายสมัคร สุนทรเวช ว่าที่นายกฯ คนใหม่แล้วเพราะเพียงคำถามธรรมดาสามัญ ที่นักข่าวทุกยุคทุกสมัยต้องถามเกี่ยวกับตัวนายกฯ ว่าเป็นใคร และพร้อมขนาดไหน ทำให้นายสมัครมีอาการหงุดหงิดในทันทีแม้จะคุ้นเคยกับนิสัยนี้เป็นอย่างดี เพราะนายสมัครเป็นอย่างนี้มาแต่อ้อนแต่ออกก็ว่าได้ แต่หลายภาคส่วนยังหวังว่า เมื่อเตรียมเข้ารับตำแหน่งผู้นำเบอร์ 1 ของเมืองไทยจุดเดือดของนายสมัครน่าจะพัฒนาให้สูงกว่าที่ผ่านมาสักหน่อยเพราะหากเจอแค่คำถามง่ายๆ เท่านี้ก็ปรอทแตกแล้ว คนที่ยิ้มมากที่สุดเห็นจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์!??เพราะเป็นพรรคการเมืองที่ถนัดเรื่องใช้วาจาเชือดเฉือน ทำให้คู่ต่อกรหงายหลังมานักต่อนักแล้วและผลเสียที่จะตามมาก็คือผลงานของรัฐบาลใหม่จะถูกกลบด้วยท่าทีของนายสมัครรวมถึงประวัติเก่าๆ ตั้งแต่สมัย "ตุลาวิปโยค" ทำให้น่าหวั่นใจอย่างยิ่งว่าหากเกิดการเคลื่อนไหวของประชาชนในเรื่องต่างๆ มีสิทธิ์ที่จะจบลงด้วยความรุนแรง!!!แม้ต่อให้เป็นแก๊งกรรโชกทางการเมือง ที่อาจจะรอก่อหวอดอยู่เพราะไม่ได้ดังใจที่พลังประชาชนสามารถกวาดเก้าอี้ส.ส.ได้มากมาย หากก่อม็อบออกมาเคลื่อนไหวอีกก็ไม่ควรที่จะแก้ปัญหาด้วยกำลังมิต้องพูดถึงกรณีชาวบ้าน หรือเกษตรกร ที่เดือดร้อนจริงๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็เจอม็อบแบบนี้กันทุกรัฐบาล หากถูกกระทำด้วยความรุนแรงจะยิ่งบานปลายหนักขึ้นบุคคลแวดล้อมนายสมัครคงต้องเหนื่อยหนักเป็นพิเศษ ในการจะดึงอารมณ์นายสมัครให้อยู่กับร่องกับรอยมากกว่าที่ผ่านๆ มาชัยชนะในสนามเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ไม่ได้มาโดยง่ายการรวมเสียงสนับสนุนจนสามารถตั้งรัฐบาลได้ ก็ยากเย็นแสนเข็ญเพราะทำท่าจะพลิกไปพลิกมาอยู่หลายตลบสิ่งเหล่านี้จะไร้ประโยชน์โภชผลอย่างสิ้นเชิง หากนายสมัครยังแสดงท่าทีและมีพฤติกรรมแบบเดิมๆอย่าว่าแต่คนนอกเลย แม้แต่คนในพรรคพลังประชาชน หรือกองเชียร์แบบสุดลิ่มทิ่มประตู หากไม่หน้ามืดตามัวจนเกินไปมองปราดเดียวก็ดูออกว่าอารมณ์ของนายสมัครไม่ต่างจากจุดอ่อนของรัฐบาลนี้ หากไม่สามารถแก้ไขหรือ "กำจัด" จุดอ่อนนี้รัฐนาวาลำใหม่มีสิทธิ์จมลงก่อนเวลาอันควร!??